Home » » ประวัติมหาวิทยาลัยอัล-ฮัซฮัร

ประวัติมหาวิทยาลัยอัล-ฮัซฮัร

Written By Unknown on วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553 | 10:26

ประวัติมหาวิทยาลัยอัล-ฮัซฮัร

:ความเป็นมาของมหาลัยอัล-ฮัซฮัร:-

ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 358 (ค.ศ.969) ท่านเญาฮัร อัซซอกลีย์ แม่ทัพของคอลิฟะฮ์ อัล-มุอิซ-ลิดีนิลลาฮ์แห่งราชวงศ์ฟาฏิมีย์ได้ทำการก่อตั้งเมืองไคโรขึ้นมา พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างมัสยิดอัล-อัซฮัรใช้เวลาการก่อสร้างเป็นระยะเวลา 2 ปีเพื่อเป็นที่ศึกษาของนิกายชีอะห์อัลฟาตีมียะห์ และศูนย์กลางการศึกษาของประเทศหลังจากเสร็จสิ้นการสร้างอัง-อัซฮัรได้โด่งดังเลื่องลือไปทั่วนับตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา
ต่อมาในเดือนรอมาฎอนปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 365 (ค.ศ.957) ก็เริ่มวางรากฐานทางการศึกาในมัสยิดดังกล่าวโดยท่านอาบูฮัซซัน อาลี บิน ลุกมาน หัวหน้าปราชญ์นิกายชีอะห์ได้ทำการสอนหนังสืออัลคิคตีศอร เป็นหนังสือบทบัญญัติของนิกายชีอะห์ ซึ่งมีบิดาของเขา อาบูฮานีฟะห์ อัลนุมานเป็นผู้วางรากฐานให้จนเป็นที่เลื่องลือในนิกายชีอะ และเป็นบุคคลแรกที่ได้ชื่อว่าบิดาแห่งปราชญ์ในอียิปต์
นับจากนั้นเป็นต้นมาอัล-อัซฮัรเป็นมัสยิดที่โด่งดังในโลกอิสลามและเป็นมหาวิทยาลัยทีเก่าแก่ที่มีการเรียนการสอนวิชาด้านศานาและสามัญ ซึ่งรวบรวมถึงการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอาน การอรรถาธบายบทบัญญัติ พระวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด ปรัชญา ดาราศาสตร์ ไวยกรณ์และวรรณคดี ในขณะเดียวกันก็เน้นการเรียนการสอนกับบรรดาสตรีเช่นกัน
ต่อมาถึงสมัยซอลาฮุดดีนอัล-อัยยูบีย์ ฮ.ศ.567-589 ซึ่งเป็นผู้นำของอียิปต์ท่านหนึ่งได้เข้ายึดครองอัล-อัซฮัร และได้ดำเนินการทางด้านศาสนาในแนวทางซุนนีย์ ซึ่งในขณะนั้นรางวงศ์ฟาฎิมีย์ได้หมดอำนาจลง ต่อมาท่านศอลาอุดดีนได้สั่งการยกเลิกการละหมาดญุมอัตในมัสยิดอัล-อัซฮัร ทำให้มัสยิดแห่งนี้ว่างเว้นจากการละหมาดญุมอัตเป็นเวลาประมาณ 100 ปี และกลับมาทำการละหมาดอย่างปกติในสมัยของอัซ-ซอเฮร ไบบริส ซึ่งอยู่ในสมัยมัมลูกีย์
ในสมัยมัมลูกีย์ ฐานะอันสูงส่งของอัล-อัซฮัรได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีก ผู้ปกครองในสมัยนั้นได้ให้การดูแลเอาใจใส่ต่อการบริหาร การเงิน การก่อสร้าง ทำให้จำนวนนักศึกษาขยับขึ้นไปถึง 750 คน ซึ่งเดินทางมาจากเมืองต่าง ๆ และเหล่าสตรีก็มีบทบาทในยุคนั้นเช่นกัน เมื่อมูฮำหมัด อาลี บาชาเข้ามาปกครองอียิปต์ เขาได้สถาปนาอัล-อัซฮัรให้เป็นแหล่งการศึกษาที่ล้ำยุค โดยได้ส่งบุคลากรต่าง ๆ ให้ไปศึกษาต่อยังประเทศในแถบยุโรป
ในปีคริสตศักราช 1872 ได้มีการออกกฎหมายจัดระเบียบการศึกษาครั้งแรก และต่อมาในปี 1930 ได้ออกกฎหมายจัดระเบียบครั้งที่สอง โดยให้มีการศึกษาในระดับชั้นต้น ระดับมหาวิทยาลัย และการศึกษาชั้นสูง คณะนิติศาสตร์ ศาสนศาสตร์ และอักษรศาสตร์ ในปี 1961 ได้ออกกฎหมายให้มีการศึกษาทางด้านสายสามัญ แบ่งออกเป็นคณะแพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และคณะพาณิชการ

:จุดเด่นของมหาลัยอัล-อัซฮัร:-
ความเก่าแก่ซึ่งมีอายุถึงหนึ่งพันกว่าปี ของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร ทำให้เป็นจุดศูนย์กลางทางการศึกษาของคนมุสลิมทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรจึงได้วางนโยบายและแบบแผ่นการศึกษาดังต่อไปนี้
1. เปิดรับสมัครนักศึกษามุสลิมที่ต้องการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาการ และผู้ใฝ่ศึกษาในอิสลามอย่างจริงจัง
2. ปลูกฝังแนวความคิดอันถูกต้องในหมู่นักศึกษามุสลิม ยึดมั่นต่ออิสลามและเชิญชวนมนุษยชาติสู่สัจจะธรรม
3. พัฒนา ปรับปรุงหลักสูตรและโปรแกรมการเรียนการสอนเพื่อเป็นการยกระดับทางด้านจิตสำนึกแห่งอิสลามและความเป็นชาตินิยมแก่นักศึกษาทุกคน
4. ผลิตนักวิชาการอิสลามและผู้ทรงคุณวุฒิสามาวิชาต่าง ๆ แก่ประเทศโลกอาหรับ และอิสลาม ภายใต้หลักความรู้และการศรัทธาที่ถูกต้อง
5. ส่งเสริมให้มีการศึกษาระดับสูงในสาขาต่าง ๆ และส่งนักศึกษาไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ ๆ นำมาเป็นประโยชน์แก่ประเทศและโลกมุสลิม
6. สอดส่องดูแลกิจกรรมทางด้านวิชาการ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาทางด้านวิชาการด้วยการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยทั่วโลก และหน่วยงานวิจัยเพื่อการศึกษาและเปลี่ยนความรู้และทักษะ

:ด้านภาษาต่างประเทศและการแปล:-
ในคณะอักษรศาสตร์ และการแปลของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร จะประกอบไปด้วย 9 สาขาด้วยกัน คือสา
ขาภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ตุรกี ฮิบรู เปอร์เซีย แอฟริกา และกลุ่มภาษายุโรป
ส่วนกลุ่มภาษายุโรปแบ่งออกเป็น 3 สาขา
1. วรรณคดี และอารยธรรม
2. การแปลภาษา
3. อิสลามศึกษา (ศึกษาศาสตร์)
ระยะเวลาการเรียน 4 ปี นอกจากสาขาอิสลามศึกษาซึ่งต้องเรียนเตรียมพิเศษใช้เวลาหนึ่งปี นักศึกษาต้องเรียนคัมภีร์
อัลกุรอาน อรรถาธิบายอัลกุรอาน พระวจนะศาสดา และความรู้เกี่ยวกับอิสลามทั่วไปด้วยภาษาต่างประเทศ เป้าหมายเพื่อให้นักศึกษามีความถนัดเรื่องการใช้ภาษาเพื่อใช้ในการแนะแนวและเผยแพร่ในต่างประเทศ

:การศึกษาของสตรีในมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรเปิดทำการสอนแก่สตรีมุสลีมะห์ในปีคริสตศักราช 1961 ด้วยการสร้างวิทยาลัยสตรีซึ่งมีอยู่หลายสาขาด้วยกันเพื่อศึกษาทางด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ อิสลามศึกษาและภาษาอาหรับ หลังจากนั้นได้ปรับสาขาเหล่านี้ไปเป็นคณะต่างหาก อาทิเช่น การผนวกคณะเภสัชกรรมและเศรษฐศาสตร์ไว้ในคณะอิสลามศึกษาและภาษาอาหรับ และการผนวกคณะอิสลามศึกษาของวิทยาเขตจังหวัดอัซยูตและสาขาภาษายุโรปและการแปลไว้ในคณะมนุษย์ศาสตร์ เช่นกันได้ก่อตั้งคณะทันตกรรมศาสตร์ที่ไคโรปี 1998/1999 และคณะมนุษศาสตร์ที่จังหวัดตาฟาฮฺนา และกีนาในปี 1999/2000

:มาตรฐานการรับรองทางวิชาการ:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรได้ประสาทปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง และระดับปริญญาตรีในทุกสาขาวิชา ซึ่งรวมถึงโปรแกรมการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาของคณะต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. อนุปริญญาโทมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติใช้เวลาเรียนสองปีหรือสี่เทอมของการศึกษา
2. ระดับปริญญาโท
3. ระดับปริญญาเอก

:ระเบียบการรับสมัคร:-
1. ผู้ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายของอัซ-ฮัร โดยยื่นใบสมัครผ่านสำนักงานรับสมัครของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร
2. ผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรทางด้านการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่าน โดยยื่นใบสมัครที่วิทยาลัยอัลกุรอาน ณ จังหวัดตอนตอ
3. ผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรอนุปริญญาตรีวิชาชีพครูอัล-อัซฮัร ทั้งชายและหญิงสมัครเรียนต่อที่คณะคุรุศาสตร์ได้แต่ต้องได้คะแนนร้อยละเจ็บสิบคะแนนขึ้นไปจากคะแนนทั้งหมด
4. นักศึกษาสตรีที่ได้รับใบประกาศนียบัตรมัธยมตอนปลายภาครัฐหรือเทียบเท่าสามารถสมัครเรียนได้ในสาขาภาษายุโรปและการแปลภาษาที่คณะมนุษยศาสตร์ในไคโรเท่านั้น

:นักศึกษาที่พิการทางด้านสายตาทั้งหญิงและชาย:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรเปิดรับสมัครเฉพาะคณะอักษรศาสตร์ คณะศาสนศาสตร์ คณะนิติศาสตร์
และกฎหมายสากลในไคโร และวิทยาเขตต่างจังหวัด อาทิเช่น ดุมยาต กีนา อัซวาน ส่วนคณะคุรุศาสตร์ในไคโรเปิดรับสมัครสองสาขาด้วยกัน คือ สาขาศึกษาศาสตร์ และสาขาอักษรศาสตร์ เอกภาษาอาหรับ

:นักศึกษาต่างชาติ:-
มหาวิทยาลัยอัล-ฮัซฮัรเปิดรับสมัครนักเรียนต่างชาติที่ได้รับประกาศนียบัตรมัธยมตอนปลายในเครืออัล-อัซฮัร หรือประกาศนียบัตรของสถาบันวิจัยอิสลามประเทศอียิปต์ และผู้ที่ได้ประกาศนียบัตรมัธยมตอนปลายของภาครัฐหรือว่าเทียบเท่า

:การวิจัยด้านวิชาการ:-
ทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญด้านวิจัยทางวิชาการเป็นอย่างมาก โดยจัดให้มีการค้นคว้าวิจัยและปฏิบัติการ ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่หลายคณะด้วยกัน โดยเน้นการค้นคว้าในเชิงปฏิบัติเพื่อเชื่อมประสานระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชน ทางฮัซฮัรมีศูนย์วิชาการสาขาต่าง ๆ และศูนย์วิจัย ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อศึกษาและค้นคว้าเฉพาะด้านในทุกแขนง เช่น ด้านการแพทย์ มนุษยศาสตร์ เกษตรกรรม อาทิเช่น ศูนย์วิจัยโรคหัวใจ ศูนย์ศึกษาภาษาสำหรับผู้ไม่เข้าใจในภาษาอาหรับ ศูนย์ศึกษาและวิจัยด้านสถิติอื่น ๆ ฯลฯ

:ด้านสาธารณสุข:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรเปิดบริการด้านสาธารณสุขแก่นักศึกษาคณะครู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในมหาวิทยาลัยด้วยโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเอง เช่น โรงพยาบาลฮุเซ็น โรงพยาบาลซะรออฺ โรงพยาบาลลาบุลชะรียะห์ และขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยกำลังก่อสร้าง โรงพยาบาลอัล-อัซฮัร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของอัซฮัที่เมืองนัศรฺ กรุงไคโร

:หอสมุดมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา การค้นคว้า และการให้บริการสังคมโดยการสร้างหอสมุดเพื่อบริการนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ผู้ศึกษาปริญญาโท คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
หอสมุดศูนย์กลางมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรประกอบไปด้วยหลายสาขา มีหนังสืออยู่ประมาณ 51,016 เล่มทั้งภาษาอาหรับและภาษาต่างประเทศ และยังมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือวิทยานิพนธ์อยู่ 10,110 เล่มในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ภาษาอาหรับและภาษาต่างประเทศมหาวิทยาลัยยังมีห้องสมุดประจำคณะอีก 50 แห่ง มีห้องสมุดประจำหอประชุมอิสลาม มีห้องโกดังเก็บหนังสือเพื่อการแลกเปลี่ยนและสิ่งพิมพ์เพื่อการแจกจ่ายของหอประชุมอิสลาม มีหนังสือสำรองอยู่ประมาณ 31,466 เล่ม

:หอพักนักศึกษา:-
อัล-อัซฮัรมีเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกเริ่มในการดูแลอุปถัมภ์นักศึกษาต่างชาติ และถ่ายทอดความรู้ไปสู่ทั่วทุกมุมโลก โดยจัดเตรียมที่พักอาศัยและปัจจัยยังชีพ ถือได้ว่าอัล-อัซฮัรเป็นสถาบันแห่งแรกในโลกที่ริเริ่มการสร้างหอพักนักศึกษาสำหรับรองรับนักศึกษาชาวอียิปต์เองและนักศึกษามุสลิมจากทั่วโลก ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1972/1973 มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรได้เปิดหอนักศึกษาสำหรับชาวอียิปต์ที่เมืองนัศรฺ ไคโร จนถึงปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยมีหอพักนักศึกษาชายและหญิงทั้งในไคโรและวิทยาเขตต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังมีหอพักสตรีที่เตรียมไว้นอกอาณาเขต ซึ่งในหอพักนักศึกษาทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงอาหาร สนามกีฬา และโรงยิม ฯลฯ

:กิจกรรมนักศึกษาทางด้านวิชาการ ศิลปะ และกีฬา:-
มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรได้ให้ความสำคัญต่อการบริการสังคม ด้วยการเน้นแบบแผนกิจกรรมต่าง ๆ ทางด้านวิชาการ ศิลปะและการกีฬา โดยจัดให้มีบุคลากรแต่ละด้านเป็นการพิเศษ เช่น การแข่งขันทางวิชาการ ศิลปะและวัฒนธรรม ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดศูนย์ศิลปะ 2 อาคารด้วยกัน อาคารแรกชื่ออาคารมูฮัมมัด อับดุฮฺ ที่เขตดัรรอซะฮฺ และอาคารที่สองคณะเกษตรศาสตร์ ที่เมืองนัศรฺ ไคโร นักศึกษาได้มีโอกาสแสดงศิลปะกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น การแสดงดนตรีพื้นเมืองและงานเขียนต่าง ๆ

:บุคคลสำคัญที่ผ่านการเจียระไนจากอัล-อัซฮัร:-
บุคคลที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่ผ่านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรล้วนเป็นผู้นำทางด้านการเมืองและทางด้านนักคิดนักพัฒนาในประเทศอียิปต์ เช่น ชัยคฺอับดุลลอฮฺ อัชชัรกอวีย์ และมุฮัมมัดอัซ-ซาดาต ผู้นำขับไล่การยึดครองฝรั่งเศสต่อประเทศอียิปต์ อะหมัดอารอบีย์ อิหม่ามมุฮัมมัด อับดุฮฺ สะอัดซัคลูล และอีหลาย ๆ ท่าน ที่มีบทบาทสำคัญในประเทศอียิปต์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
Share this article :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. Persatuan Usrah Ainshams Mesir Patani - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website
Proudly powered by Blogger